วันอังคารที่ 24 มกราคม พ.ศ. 2555

วัยรุ่นพันล้าน

ถ้าสาหร่ายต้องเถ้าแก่น้อย” คุ้นๆหูกันบ้างไหมครับ

ผมคิดว่าพวกเราคงคุ้นหูกันดีจากโฆษณาทางทีวีช่องฟรีทีวีต่างๆ ที่เอานักร้องวงบอยแบรนด์จากเกาหลีมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ บางคนดูแล้วก็ได้แค่ดู แล้วแค่รู้ว่ามันคือสาหร่ายทอดตรา “เถ้าแก่น้อย” น้อยคนนักที่จะมองให้ลึกลงไป แล้วตั้งคำถามว่าทำไมจู่ๆสินค้าแบรนด์นี้ถึงโดดเด่นขึ้นมาภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว ทั้งโฆษณาทางทีวี สติ๊กเกอร์ตามรถโดยสารประจำทาง ถ้าผมจะบอกว่า

เจ้าของเถ้าแก่น้อยคนนี้

·       เริ่มธุรกิจตอนอายุ 19 ปี (ปัจจุบันอายุ 26 ปี)

·       จบแค่ ม.6

·       ที่บ้านมีหนี้สิน 40 ล้าน

·       พ่อแม่หนีหนี้ไปอยู่เมืองจีน

·       ใช้เวลา 7 ปีสร้างธุรกิจพันล้าน

พวกเราอยากรู้เรื่องราวของเขาไหม?????


เมื่อวานได้มีโอกาสคุยกับคนๆ หนึ่ง (ต้องขอขอบคุณที่ให้ความรู้) เรื่องเถ้าแก่น้อย กับ หนังเรื่อง วัยรุ่นพันล้าน หนังเรื่องนี้เสร้างมาจากเรื่องจริงของ คุณอิทธิพัทธ์ (ต๊อบ) เจ้าของเถ้าแก่น้อย ผมเองเคยได้ยินหนังเรื่องนี้มาก่อนแต่ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร พอได้คุยกันก็เกิดอาการอยากรู้ประวัติของเถ้าแก่น้อยมาโดยทันที ตกเย็นเลยไปซื้อวีซีดีที่ 7 eleven มีโปรโมชั่นแถมสาหร่ายทอดเถ้าแก่น้อย 2 ถุงเอาไว้กินตอนดู ระหว่างทีดูไปก็คิดตามไปสิ่งที่คุณต๊อบทำ มีบางสิ่งบางอย่างสอดคล้องกับรูปแบบที่เรากำลังทำธุรกิจอยู่ จึงทำให้ความตั้งใจในการดูและคิดตามของเราเพิ่มขึ้น พอดูจบ ทำให้ได้ข้อคิดว่า สิ่งที่เรากำลังทำอยู่ เรามาถูกทางแล้ว หนังเรื่องนี้สร้างแรงบันดาลใจอย่างมากในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆที่เกิดขึ้นในการทำธุรกิจ อยากให้ทุกคนดูหนังเรื่องนี้เพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการต่อสู้ชีวิตและผ่าฟันอุปสรรคต่างๆเวลาเราเกิดวิกฤต

วันจันทร์ที่ 23 มกราคม พ.ศ. 2555

ปฏิทินชีวิตของข้าพเจ้า

ปฏิทินชีวิตเป็นสิ่งสำคัญที่เราต้องสร้างและออกแบบเอง เพื่อกำหนดรูปแบบแนวทางการใช้ชีวิตและเป็นแผนที่นำทางเราไปสู่สิ่งที่เราต้องการในชีวิตนี้ การที่เราได้เกิดมาในโลกนี้ถือว่าประเสริฐสุดแล้วที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เพราะฉนั้นจงใช้ชีวิตให้คุ้ม สร้างเป้าหมายให้กับตนเอง เมื่อสำเร็จแล้วจงช่วยเหลือคนที่เขาด้อยกว่าเรา 

เป้าหมายชีวิต

       ส่วนตัว

1.  อายุ 50 เกษียณการทำงานในบริษัท

2.  มีเงินใช้เดือนละ 100,000 บาทหลังเกษียณไปจนอายุ 80 ปี

3.  มีพอร์ตการลงทุน 100 ล้านขึ้นไป

พ่อ-แม่

1.  พาเที่ยวต่างประเทศปีละ 1 ครั้ง

2.  พาเที่ยวในประเทศปีละ 3-4 ครั้ง

ลูกในอนาคต

1.  ส่งลูกไปเรียนต่างประเทศ (พูดอังกฤษ-จีนได้)

2.  ลูกมีความสามารถในการส่งทุนทั้งหุ้น, ตลาดโภคภัณฑ์, ตลาดล่วงหน้า

3.  ส่งมอบธุรกิจ + พอร์ตการลงทุนให้ลูก

วิธีการ

1.  สร้างบริษัทในเครือทั้งหมดให้มีรายได้ปีละ 100 ล้านบาทขึ้นไป ภายใน 3 ปี

2.  นำเงินส่วนที่ได้ปันผลจากธุรกิจสร้างพอร์ตการลงทุนให้ได้ 10 ล้านบาทขึ้นไปภายใน 3 ปี

a.   แบ่งพอร์ตการลงทุนออกเป็น 2 ส่วน

                                                         i.    ส่วนแรก 40% ลงทุนในหุ้น VI + ปันผล

                                                       ii.    ส่วนที่สอง 60% ลงทุนแนว penny stock + technical
 
b.  หลังเกษียณเปลี่ยนแนวทางการลงทุนแนว VI + ปันผล 100% เพื่อลดความผันผวนและความเสียง
ทำอัตราผลตอบแทน 20% ต่อปี แล้วหลังจากอายุ 39 ใส่เงินทุนไปอีกปีละ 5 ล้านบาท

1. อายุ 36-38 ปี เงินลงทุน 10,000,000 บาท
2. อายุ 39 ปี เงินลงทุน 12,000,000 บาท + 5 ล้าน
3. อายุ 40 ปี เงินลงทุน 20,400,000 บาท+ 5 ล้าน
4. อายุ 41 ปี เงินลงทุน 30,480,000 บาท+ 5 ล้าน
5. อายุ 42 ปี เงินลงทุน 42,576,000 บาท+ 5 ล้าน
6. อายุ 43 ปี เงินลงทุน 57,091,200 บาท+ 5 ล้าน
7. อายุ 44 ปี เงินลงทุน 74,509,440 บาท+ 5 ล้าน
8.อายุ 45 ปี เงินลงทุน 95,411,328 บาท+ 5 ล้าน
9.อายุ 46 ปี เงินลงทุน 120,493,593.60 บาท+ 5 ล้าน
10.อายุ 47 ปี เงินลงทุน 150,592,312.32 บาท+ 5 ล้าน
11.อายุ 48 ปี เงินลงทุน 186,710,774.787 บาท+ 5 ล้าน
12.อายุ 49 ปี เงินลงทุน 230,052,929.74 บาท+ 5 ล้าน
13.อายุ 50 ปี เงินลงทุน 282,063,515.688 บาท

อายุ 51 นั่งกินปันผลอย่างเดียวหลังเกษียณปีละ 10% =ประมาณ 28 ล้านบาท ตกเดือนละ 2.33 ล้านบาท เกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ นำเงินที่เหลือใช้บริจาคให้กับมูลนิธิต่างๆ ช่วยเหลือคนที่ด้อยโอกาส